โรครากขาว (disease white root) เกิดจากเชื้อรา Rigidoporus lignosus (Klotzsch) lmazeki สามารถพบเห็นการเข้าทำลายได้ทุกระยะการเจริญเติบโต ตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปโดยจะแทงเส้นใยเข้าไปในเนื้อเยื่อ ทำให้การทำงานของเชลล์รากเสียหายไม่สามารถดูดน้ำดูดอาหารได้เต็มที่ ทำให้ขบวนการสังเคราะห์แสงของยางพาราค่อยๆ ลดลง เมื่อระบบรากถูกทำลาย ยางพาราจะแสดงอาการให้เห็นที่ทรงพุ่มและนั่นเป็นระยะที่รุนแรงไม่สามารถจะรักษาได้ บริเวณรากที่ถูกเชื้อเข้าทำลายจะปรากฏเส้นใยราสีขาวเจริญแตกสาขาปกคลุม เกาะติดแน่นกับผิวราก เมื่อเส้นใยอายุมากขึ้นจะกลายเป็นเส้นกลมนูนสีเหลืองซีด เนื้อไม้ของรากที่เป็นโรคในระยะแรกจะแข็งกระด้างเป็นสีน้ำตาลซีดในระยะรุนแรงจะกลายเป็นสีครีม หากพบในที่ชื้นแฉะจะอ่อนนิ่ม ดอกเห็ดนิดนี้จะมีลักษณะเป็นแผ่นครึ่งวงกลมแผ่นเดียวหรือซ้อนกันเป็นชั้นๆ ผิวด้านบนเป็นสีเหลืองส้ม โดยมีสีเข้มอ่อนเรียงสลับกันเป็นวง ผิวด้านล่างเป็นสีส้มแดงหรือสีน้ำตาล ขอบดอกเห็ดเป็นสีขาว ส่วนใหญ่พบการแพร่ระบาดในช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกชุกและมีความชื้นสูง |
“ ยางพารามีอาการใบเหลือง หรือจุดปื้นเหลืองทั่วบริเวณใบ ใบมีขนาดเล็กลง ยอดหยุดนิ่งไม่แตกยอด น้ำยางไม่ไหลในยางเปิดกรีด มีเส้นใยสีขาวหรือเหลืองขึ้นบริเวณโคนต้นคล้ายตาข่าย บางต้นอาจมีดอกเห็ดลักษณะคล้ายเห็ดหลินจือแต่มีขอบดอกสีขาว ” แต่รับประทานเป็นอาหารไม่ได้ ขั้นตอนในการป้องกันและกำจัดเชื้อราสาเหตุโรคพืชโดยใช้เชื้อไตรโครเดอร์ม่าสายพันธุ์ฮาร์เซียนัม ซึ่งมีคุณสมบัติในการควบคุม ทำลาย ยับยั้งเชื้อราในดินสาเหตุของโรคพืชที่ก่อให้เกิดอาการโรครากขาว หรือโรครากเน่าโคนเน่ารวมถึงพืชผัก พืชไร่ ไม้ผล เชื้อที่พบส่วนใหญ่เป็น เชื้อราเมล็ดผักกาด (Sclerotium rolfsii) เชื้อราพิเทียม (Pythium sp.) เชื้อราไรซอคโทเนีย (Rhizoctonia sp.) เชื้อราฟัยทอปโทรา (Phytophthora sp.) และเชื้อราฟูซาเรียม (Fusarium sp.) ซึ่งเชื้อราสาเหตุโรคพืชเหล่านี้เมื่อเข้าทำลายระบบรากพืช จะทำให้พืชแสดงอาการรากเน่าและโคนเน่า ในต้นที่แสดงอาการรุนแรงจะเหี่ยวแห้งตายไปในที่สุด ซึ่งหน่วยงานราชการบางหน่วยงานได้มีการวิจัยและส่งเสริมให้เกษตรกรนำเชื้อราไตรโครเดอร์ม่ามาใช้ควบคุมโรคพืช เพื่อทดแทนการใช้สารเคมี ลดสารพิษตกค้างในพืชและสภาพแวดล้อม เทคนิคการนำเชื้อไตรโครเดอร์ม่าไปใช้ในแปลงยางพาราที่เป็นโรครากขาว สามารถทำได้ดังนี้ (สามารถเลือกวิธีใดวิธีหนึ่งได้) 1.ให้นำเชื้อไตรโครเดอร์ม่า 1 กก.ผสมร่วมกับปุ๋ยคอก (มูลสัตว์) 50 กก.และภูไมท์ซัลเฟต 20 กก.คลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนนำไปหว่านรอบทรงพุ่ม โดยห่างจากโคนต้นประมาณ 1 เมตร อัตรา 1-2 กก./ต้น 2.ให้นำเชื้อไตรโครเดอร์ม่า 100 กรัมผสมน้ำเปล่า 20 ลิตรฉีดพ่นทั่วทั้งแปลงให้ชุ่มโชกเหมือนอาบน้ำ ทุกๆ 15 วันครั้ง 3.ให้นำเชื้อไตรโครเดอร์ม่า 1 ช้อนแกง ( 20 กรัม) ผสมกากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดง 1 กก.และน้ำเปล่า 10 ลิตร หมักทิ้งไว้ 8 -10 ชั่วโมง ก่อนนำมาผสมน้ำเปล่าอีก 200 ลิตรฉีดพ่นทั่วทั้งแปลงให้ชุ่มโชกเหมือนอาบน้ำ ทุกๆ 7 วันครั้ง |