เชื้อราไตรโคเดอร์มาแก้ปัญหาโรครากเน่าในผักไฮโดรโพนิกส์
1. เชื้อราไตรโคเดอร์มาช่วยแก้ปัญหาการปลูกผักในฤดูร้อน ที่อาจจำเป็นต้องปรับระดับ pH ค่อนข้างสูงคือ pH 6.5-7.0 ซึ่งpHระดับน้ำนี้มักจะทำให้ธาตุอาหารบางชนิดตกตะกอน เชื้อรา ไตรโคเดอร์มาจะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ โดยทำหน้าที่ละลายแร่ธาตุอาหารที่ตกตะกอนให้กลับมาเป็นประโยชน์ต่อพืชใหม่ได้
2. เชื้อราไตรโคเดอร์มาช่วยกำจัดตะกอนแคลเซียมฟอสเฟตที่เกาะติดแน่นพื้นผิวรางและอาจรวมถึงเหล็กฟอสเฟตที่อยู่ในราง ซึ่งมีสารละลายธาตุอาหารไหลผ่านตลอดเวลาให้สลายไป โดยเชื่อว่าเชื้อราไตรโคเดอร์มาสามารถสร้างกรดอินทรีย์มาละลายหรือสลายตะกอนหรือเกลือดังกล่าวให้เปลี่ยนไปอยู่ในรูปที่เป็นประโยชน์ต่อพืชได้ ดังนั้นเมื่อใช้มือลูบผิวราง จะรู้สึกลื่น ไม่มีตะกอนที่ทำให้รู้สึกสากมือ ใช้ผ้าหรือฟองน้ำลูบ แล้วฉีดน้ำไล่ก็เพียงพอแล้ว จึงหมดความจำเป็นที่จะต้องล้างรางปลูกด้วยการปล่อยกรดไนตริกไหลวนในรางปลูก 1 วัน นอกจากนี้ยังพบว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้คลอรีน(คลอร็อกซ์หรือไฮเตอร์)ใส่ไหลวนในรางปลูก 1 คืน แล้วล้างด้วยน้ำ เพื่อหวังที่จะฆ่าเชื้อโรคซึ่งอาจตกค้างอยู่ในรางให้หมดไป ในทางกลับกัน การมีเชื้อราไตรโคเดอร์มาเหลือตกค้างในรางปลูก กลับจะเป็นประโยชน์ต่อพืชผักที่ปลูกในครั้งต่อไปได้ด้วย นอกจากนี้การกำจัดตะกอนด้วยวิธีใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาจะช่วยยืดอายุการใช้งานของปั๊มน้ำได้ยาวนานขึ้น
3. เมล็ดผักที่เพาะโดยใช้สารละลายธาตุอาหารซึ่งใส่เชื้อราไตรโคเดอร์มาลงไปด้วยนั้น ในบางกรณีอาจไม่ได้ช่วยให้เปอร์เซ็นต์ความงอกสูงกว่าปกติ แต่เมล็ดที่งอกจะมีอัตราการรอดตายสูง และต้นที่รอดมักมีการเจริญเติบโตดี ไม่แคระแกร็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่ไม่ใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาในฤดูร้อน แม้อัตราการงอกของเมล็ดจะสูงตามปกติ แต่ต้นกล้าจะทยอยตายเนื่องจากการเข้าทำลายของเชื้อราพิเธียม ทั้งนี้เพราะสภาพอุณหภูมิสูงและpHของสารละลายธาตุอาหารที่ค่อนข้างต่ำ เป็นสภาวะที่เหมาะสมต่อการเจริญและการเข้าทำลายของเชื้อราพิเธียมเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ผู้เขียนได้ประมวลคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ในการปลูกเลี้ยงผักไฮโดรโพนิกส์ ทั้งสองท่าน ในกรณีที่เกิดโรครากเน่าในผักไฮโดรโพนิกส์ขึ้นแล้ว ว่าควรจะดำเนินการอย่างไร เพื่อแก้ปัญหาและลดความเสียหายจากโรครากเน่า ดังต่อไปนี้
กรณีที่เกิดโรครากเน่าในผักไฮโดรโพนิกส์ขึ้นแล้ว ควรจะดำเนินการ เพื่อแก้ปัญหาและลดความเสียหายจากโรครากเน่า ดังต่อไปนี้
1. พยายามหาวิธีลดอุณหภูมิในสารละลายธาตุอาหาร เช่น การพรางแสง การปั๊มอากาศเพิ่ม การพ่นน้ำฝอย
2. ปรับสภาพ pH ไม่ให้เป็นกรดจัด คือให้มีค่า 6.5-7.0 ปรับค่า EC ให้ต่ำลงกว่าที่เคยใช้
3. เปลี่ยนสารละลายธาตุอาหารใหม่เพื่อลดปริมาณเชื้อโรค
4. เก็บต้นและรากที่เป็นโรคออกจากระบบปลูกให้มากที่สุด ใส่ถุงพลาสติกนำไปทิ้ง
5. ช่วยพ่นธาตุอาหารหลัก และธาตุอาหารเสริมให้ทางใบผัก
6. ใส่เชื้อราไตรโคเดอร์มา อัตรา 100 กรัม ต่อสารละลายธาตุอาหาร 200 ลิตร ทุก 3-7 วัน
7. หมั่นสังเกตดูรากที่งอกมาใหม่ว่าดูปกติหรือไม่ ถ้าดีแล้วจึงค่อยปรับค่า EC ให้เพิ่มขึ้นทีละน้อย ก่อนที่จะไปปรับค่า pH จนถึงระดับที่เคยใช้
การผสมผสานวิธีปฏิบัติดังกล่าวข้างต้น จะช่วยให้การเกิดโรครากเน่าน้อยลง